ฉันเพิ่งได้รับการยกย่องมาก - คะแนนเครดิตของฉันจะขึ้น?

มันน่าตื่นเต้นเสมอที่จะได้รับการยกย่อง แต่นี่เป็นความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณกำลังพยายามปรับปรุงการเงินของคุณ รายได้เพิ่มเติมหมายถึงเงินสดที่มีอยู่มากขึ้นเพื่อประหยัดลงทุนหรือชำระหนี้

คุณอาจจะประหลาดใจที่ทราบว่าเงินเดือนที่มากขึ้นไม่ได้แปลโดยตรงเป็นคะแนนเครดิตที่สูงขึ้น แต่ข่าวดีก็คือมีมาตรการทางอ้อมที่คุณสามารถใช้เพื่อเพิ่มเครดิตของคุณกับรายได้ใหม่ของคุณ ดูรายละเอียดด้านล่างสำหรับทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับหัวข้อที่ยุ่งยากนี้

รายได้ไม่ได้เป็นปัจจัยในคะแนนของคุณ

ประการแรกสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่ารายได้ไม่ใช่จุดข้อมูลที่ FICO ใช้ในการคำนวณคะแนนเครดิตของคุณ อัลกอริธึมในปัจจุบันมีเพียงปัจจัยในพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของคุณอย่างแม่นยำด้วยเงินที่ยืมมาเท่านั้น ซึ่งรวมถึง:

• ประวัติการชำระเงิน (35%)
• การใช้สินเชื่อ (30%)
• ความยาวของประวัติเครดิต (15%)
• การสอบถามเครดิตใหม่ (10%)
• บัญชีสินเชื่อ (10%)

ดังนั้นทำไมไม่พิจารณารายได้? คำตอบนี้เป็นสองเท่า สิ่งหนึ่งที่รายได้มีความผันผวนสูงและอาจเปลี่ยนทางทฤษฎีได้หลายครั้งในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้ทำให้ไม่น่าเชื่อถือและยากสำหรับเครดิตบูโรเพื่อติดตาม

นอกจากนี้อย่าลืมจุดประสงค์ของคะแนนเครดิต: เป็นเครื่องมือที่ผู้ให้กู้ใช้เพื่อประเมินความเป็นไปได้ที่คุณจะชำระคืนเงินที่ยืมมา การมีรายได้สูงไม่จำเป็นต้องหมายความว่าคุณจะใช้เงินนั้นเพื่อชำระค่าใช้จ่ายของคุณ

แต่การแสดงประวัติการชำระเงินที่ตรงเวลาและการรักษาระดับหนี้ของคุณให้สามารถจัดการได้เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีว่าคุณเป็นผู้กู้ที่น่าเชื่อถือ นี่คือเหตุผลที่โมเดล FICO ใช้ปัจจัยด้านบน - เทียบกับตัวแปรทางการเงินส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่นรายได้ - เพื่อคำนวณคะแนนของคุณ

เงินเดือน ทำ ส่งผลต่อความสามารถในการกู้เงินของคุณ

หากคุณอยู่ในตลาดสำหรับเงินกู้และกำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากคุณอาจจะท้อแท้ที่จะเรียนรู้ว่าการเพิ่มเงินไม่ใช่ตั๋วที่ให้คะแนนเครดิตที่สูงขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่ารายได้ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้เมื่อพวกเขากำลังตัดสินใจว่าจะให้เงินกู้หรือไม่ เนื่องจากเงินเดือนรายเดือนของคุณเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ของคุณ นอกเหนือจากคะแนนเครดิตของคุณตัวเลขนี้อาจเป็นปัจจัยใหญ่ที่สุดที่ธนาคารจะใช้ในการประเมินความน่าเชื่อถือของคุณ

อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ของคุณคำนวณโดยการบวกการชำระหนี้ทั้งหมดของคุณเป็นรายเดือนและหารตัวเลขนี้โดยรายได้ขั้นต้นต่อเดือนของคุณ ผู้ให้กู้ส่วนใหญ่ต้องการให้อัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้อยู่ที่ 35% หรือน้อยกว่า สมมติว่าคุณไม่ได้ใช้หนี้เพิ่มเติมในขณะที่คุณได้รับการเพิ่มขึ้นชนในเงินเดือนของคุณจะลดอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ของคุณ

นี้จะทำให้คุณเป็นผู้สมัครที่น่าสนใจมากสำหรับเงินกู้แม้ว่าคะแนนเครดิตของคุณจะยังคงเหมือนเดิม และน่าสนใจการเพิ่มบัญชีเครดิตอื่นในรายการของคุณอาจเป็นเพียงแค่บัตรเครดิตที่สูงขึ้นเท่านั้น (ดูด้านล่าง)

วิธีการใช้การเพิ่มเพื่อเพิ่มคะแนนของคุณ

แม้ว่าช่องจ่ายเงินใหม่ที่มีขนาดใหญ่จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเครดิตของคุณ แต่ก็มีวิธีเลี้ยวลือไปถึงคะแนนที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น:

ขอเพิ่มวงเงินเครดิต - 30% ของคะแนนเครดิตของคุณมาจากอัตราส่วนการใช้เครดิตของคุณ วงเงินเครดิตของคุณกำหนดบางส่วนตามรายได้ของคุณดังนั้นเงินเดือนที่มากขึ้นอาจทำให้วงเงินเครดิตมีขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยลดอัตราการใช้เครดิตของคุณซึ่งจะช่วยให้คะแนนของคุณเป็นจริง

เพียงแค่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ กลยุทธ์นี้ใช้งานได้เฉพาะถ้าคุณต่อต้านการกระตุ้นให้ใช้จ่าย

ชำระหนี้ - อีกวิธีหนึ่งในการปรับปรุงอัตราส่วนการใช้เครดิตของคุณคือการชำระหนี้ของคุณ การดำเนินการนี้ทำได้ง่ายขึ้นหากคุณมีรายได้เพิ่มขึ้นในการทำงานกับทุกเดือนดังนั้นการใช้การเพิ่มยอดเพื่อลดความสมดุลของบัตรเครดิตเป็นแนวคิดที่ดี

รับเงินกู้ใหม่ - หากคุณมีปัญหาในการเบิกเงินกู้เนื่องจากอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้การเพิ่มอาจช่วยให้คุณมีคุณสมบัติ ซึ่งอาจช่วยให้คะแนนของคุณโดยการปรับปรุงความหลากหลายของบัญชีในรายงานเครดิตของคุณ

แต่เพียงเปิดเงินกู้ใหม่ถ้าคุณต้องการจริงๆ - ไม่ทำมันเพียงเพื่อประโยชน์ของคะแนนของคุณ

บรรทัดด้านล่าง: การเพิ่มจะไม่นำคุณไปสู่การติดตามอย่างรวดเร็วเพื่อให้เครดิตดีขึ้น แต่ด้วยการเคลื่อนไหวที่ถูกต้องคุณสามารถใช้ paycheck ที่ใหญ่กว่าเพื่อให้ได้คะแนนที่สูงขึ้น ถ้าคุณทำตามคำแนะนำของ Nerds คุณจะเป็นแบบนั้น!

การรับภาพเพิ่มผ่าน Shutterstock